วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

ปลาลักเล่


ปลาทองพันธุ์นี้สามารถจำแนกออกได้เป็น 3 ชนิด ใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ

1.ปลาทองตาโปนสีแดง หรือเป็นปลาทองตาโปนที่มีสีแดงตลอดทั้งลำตัว ชาวญี่ปุ่นเรียกพันธุ์นี้ว่า Aka Demekin

2.ปลาทองพันธุ์เล่ห์ หรือที่คนไทยมักนิยมเรียกกันจนติดปากกันว่า “ปลาลักเล่ห์” เป็นปลาทองตาโปนที่มีสีดำตลอดทั้งลำตัว นอกจากนี้ยังแบ่งออกเป็นสายพันธุ์ย่อยต่าง ๆ ออกไป เช่น
- พันธุ์หางตุ๊กตา ปลายหางของปลาจะเรียบเสมอกันจนดูคล้ายกระโปรง
- พันธุ์หางยาวธรรมดา ซึ่งเป็นปลาที่มีราคาแพงกว่าชนิดหางตุ๊กตา
- พันธุ์เล่ห์นาก หรือ ลักเล่ห์นาก
- พันธุ์แพนด้า ที่มีสี Marking คล้ายหมีแพนด้า โดยเฉพาะตรงส่วนหน้า (พันธุ์ใหม่สุด)

3.ปลาทองตาโปน 3 สี คนไทยมักนิยมเรียกกันว่า “ลักเล่ห์ 5 สี” นั่นเอง

ลักษณะเด่นของปลาทองพันธุ์นี้ก็คือ ตาของปลาจะยื่นโปนออกไปข้างหน้าจนดูคล้ายกับกล้องส่องทางไกล จึ่งมีชื่อภาษาอังกฤษว่า “Telescope Eyes” ลักษณะของตาปลาทองชนิดนี้ที่ดีควรจะต้องโต และตาสองข้างต้องมีขนาดเท่า ๆ กัน แก้วตาควรจะกลมไม่แบน

ปลาชนิดนี้เมื่ออายุยังน้อยลูกตาจะไม่โปนออกมา โดยทั่วไปเมื่อลูกปลามีอายุได้ 3-6 เดือน ลูกตาจึงจะค่อย ๆ ยื่นโปนออกมาชัด หากตาโปนขึ้นเพียงข้างเดียวจะทำให้ปลาด้วยราคาถูกลงทันที โดยมากปลาทองตาโปนหากผู้เลี้ยง ๆ ไม่ดี ปลามักจะตาบอด เนื่องจากตาของปลามักชนถูกขอบตู้หรือขอบอ่างอยู่เสมอ ดังนั้นภาชนะที่ใช้เลี้ยงจึงควรเป็นบ่อหรืออ่างที่มีลักษณะกลมและปากบ่อหรืออ่างควรป้านออก เพื่อป้องกันไม่ให้ปลาว่ายไปชนถูกขอบบ่อ

ขนาดของปลาทองพันธุ์นี้จะมีขนาดเล็ก โดยเฉลี่ยยาวไม่เกิน 6 นิ้ว จัดว่าเป็นปลาที่ค่อนข้างเปราะบางเลี้ยงยาก ดังนั้นจึงเป็นปลาที่ไม่เหมาะสำหรับนำเลี้ยงปลามือใหม่ที่จะนำไปเลี้ยง และเนื่องจากปลาทองชนิดนี้เป็นปลาที่มีสายตาใช้การได้ไม่ดีเท่าใดนัก จึงทำให้ปลามีประสาทในการดมกลิ่นดีกว่าพันธุ์อื่น ๆ สำหรับปัญหาที่มักเกิดกับปลาทองเล่ห์ คือ ปลาทองชนิดนี้เมื่อมีอายุขัยมากขึ้นสีมักจะกลาย ทำให้ขาดความสวยงาม

จากการศึกษาค้นคว้าพอทราบว่าเหตุที่ปลาทองพันธุ์นี้มีชื่อว่า “พันธุ์เล่ห์” เพราะเจ้าของร้านเล่ห์ประดิษฐ์ซึ่งเป็นผู้ผลิตแรกเก็ตไม้แบดมินตันเป็นผู้นำปลาทองชนิดนี้เข้ามาเลี้ยงและเผยแพร่ในเมืองไทย จึงเรียกปลาทองตาโปนที่สีดำนี้ว่า “พันธุ์เล่ห์” ตั้งแต่นั่นเป็นต้นมา ซึ่งภายหลังแผลงกันจนเป็น “ปลาลักเล่ห์”

สำหรับปลาทองตาโปน 3 สี นั้น เป็นปลาทองที่มีเกล็ดโปร่งใส โดยมีลวดลายและสีสันอยู่ภายในซึ่งเราสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งหากดูอย่างผิวเผินแล้วอาจเข้าใจว่า ลวดลายและสีสันบนตัวปลาเป็นสีบนเกล็ดปลา แต่ที่แท้จริงแล้วสีที่เห็นเป็นสีที่ซ่อนอยู่ใต้เกล็ด สำหรับสีของปลาทองชนิดนี้ได้แก่ แดง ขาว ดำ ฟ้า น้ำตาลออกเหลือง แดงออกม่วง ปลาที่มีครบทั้ง 5 สี อยู่ในตัวเดียวจะเป็นปลาที่มีราคา ซึ่งปลาที่มีลักษณะเช่นนี้เป็นปลาที่หาได้ยาก

นอกจากนี้ปลาทองพันธุ์ตาโปน หรือ พันธุ์เล่ห์ ยังสามารถแยกประเภทออกไปตามลักษณะของหางออกได้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ

1.ปลาทองชนิดหางแฉก ซึ่งในบ้านเรานิยมเรียกกันว่า “หางผีเสื้อ” จัดว่าเป็นปลาที่ได้รับความนิยมมากกว่าปลาทองประเภทที่จะกล่าวต่อไป

2.ปลาทองหางซิว มีลักษณะคล้ายหางปลาทองสามัญ แต่จะเรียวยาวมากกว่าคล้ายหางปลาซิว

ที่ทา : http://www.thaigoodview.com/library/studentshow/2549/m6-6/no06-08/fish/sec04p03_16.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น